1. ต้องดูวัตถุประสงค์ของเราว่าต้องการที่ดินเพื่ออะไร เช่น เราจะปลูกบ้านก็ต้องดูทำเลที่เดินทางสะดวก สร้างโรงงานก็ต้องดูทำเลใกล้แหล่งวัตถุดิบ การขนส่งสินค้าสะดวก หรือทำการเกษตรก็ต้องดูว่าใกล้แหล่งน้ำสะอาด เป็นต้น
2. พอเราเลือกที่ดินได้แล้ว เราก็ต้องทราบตำแหน่งว่า ถูกต้องหรือไม่ทราบแนวเขตที่ดินทุกด้านกว้าง ยาว เป็นจำนวนที่แน่ชัด ไม่ว่ารูปร่างที่ดินเรา จะเป็นรูปสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยมคางหมู หรือ หลายเหลี่ยม โดยที่ดินที่ดีที่สุด ก็รูปสี่เหลี่ยม
3. ต้องเช็คทางเข้าออกให้ดี ไม่ซื้อที่ดินตาบอดเข้าออกไม่ได้ หรือทางเข้าออกมีเจ้าของคนอื่นจะซื้อที่ดินทั้งทีควรรอบคอบ และศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านนะครับ..
4. ควรเช็คประวัติเจ้าของที่ดิน ตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจนว่ามีโฉนดที่ดินถูกต้องหรือไม่ เพราะบางทีเราได้ที่ดินที่ไม่มีโฉนด ทำให้ไม่สามารถโอนได้จะทำให้เราต้องยุ่งยากในภายหลัง
5. ควรตรวจสอบบริเวณรอบๆ ที่ดินว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรมหรือไม่ ใกล้แหล่งทิ้งขยะมูลฝอย หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีมลพิษหรือเปล่า ไม่ว่าเราจะต้องการใช้ที่ดินเพื่อการใดก็ตาม หากเราได้ที่ดินที่ไม่มีแหล่งที่ไม่พึงประสงค์มาอยู่ใกล้ๆ ก็จะดีกว่านะครับ
6. ควรประเมินราคาให้เหมาะสมกับขนาด และทำเลของที่ดินที่ เอาไว้ในใจด้วยครับ เพราะหากเราหลับหูหลับตาซื้อที่ดินด้วยราคาที่แพงเกินไป เราอาจต้องเสียดายภายหลัง เก็บเงินส่วนต่างเอาไว้ปลูกบ้านจะดีกว่าครับ
7. ควรมีผู้เชี่ยวชาญร่วมพิจารณา เราอาจมองหาคนรู้จักที่มองทำเลเป็น หรือสอบถามคนในพื้นที่ว่าที่ดินตรงนี้มีประวัติเป็นมาอย่างไร การเดินทางเป็นอย่างไร ใกล้กับแหล่งอะไรบ้าง เพื่อให้มีข้อมูลรอบด้านก่อนตัดสินใจซื้อครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ Tip เล็กๆ น้อยๆ สำหรับการเลือกซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านแสนรัก หรือนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ เราควรใส่ใจในรายละเอียดสำคัญ เพราะการซื้อที่ดินงามๆ ซักแปลงถือเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามด้วยประการทั้งปวง